LAW & REGULATIONS

กฏและข้อบังคับสำหรับการโฆษณา

Law & Regulations


สั่งเอกชนแจงรายได้รายจ่ายโครงการรัฐ

สั่งเอกชนแจงรายได้รายจ่ายโครงการรัฐ 
เริ่ม1ม.ค.55 ขึ้นบัญชีดำ : “ล่าเงินคอร์รัปชัน”

 

ดร. ณัฐวัฒน์ อริย์ธัชโภคิน

 

ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมปีหน้า (1 ม.ค. 2555) เป็นต้นไป จะเกิดการปฏิวัติมาตรการต่อต้านการทุจริตคอรัปชันในภาคเอกชนครั้งสำคัญ เพราะ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. กำหนดให้บุคคลหรือนิติบุคคลที่เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ ต้องแสดงบัญชีรายการรับจ่ายของโครงการตามสัญญานั้นๆ ต่อกรมสรรพากร ใครฝ่าฝืนจะถูกขึ้นบัญชีดำห้ามเข้าประมูลหรือรับงานกับหน่วยงานของรัฐอีกต่อไป

 

ตัดช่องจ่ายเงินแลกงานรัฐ

 

สู่ยุคโปร่งใส-สู้ในกติกา

 

     มาตรการต่อต้านการทุจริตข้างต้นเป็นไปตาม ประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการจัดทำ และแสดงบัญชีรายรับรายจ่ายของโครงการที่บุคคลหรือนิติบุคคลเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2554 โดยอาศัยอำนาจตามกฎหมายใหม่ของ ป.ป.ช. คือ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2554 มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2554 โดยมาตรา103/7 บัญญัติว่า

 

     “...เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ในกรณีที่มีการทำสัญญาระหว่างหน่วยงานของรัฐกับบุคคลหรือนิติบุคคลที่เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ ให้บุคคลหรือนิติบุคคลที่เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐนั้น มีหน้าที่แสดงบัญชีรายการรับจ่ายของโครงการที่เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐต่อกรมสรรพากร นอกเหนือจากบัญชีงบดุลปกติที่ยื่นประจำปี เพื่อให้มีการตรวจสอบเกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินและการคำนวณภาษีเงินได้ในโครงการที่เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐดังกล่าว ทั้งนี้ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กำหนด...”

 

     ประกาศฉบับดังกล่าวจะใช้บังคับกับ บุคคลหรือนิติบุคคลที่เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐและหน่วยงานของรัฐ โดยใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๕ เป็นต้นไป

 

     ผู้ที่มีหน้าที่ต้องยื่นบัญชีแสดงรายรับรายจ่ายหมายถึง บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งเข้าเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ เช่น องค์การมหาชนโดยหน่วยงานของรัฐซึ่งต้องดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Government Procurement : e-GP) ของกรมบัญชีกลางที่เว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ(www.gprocurement.go.th) บันทึกข้อมูลของคู่สัญญาที่ต้องแสดงบัญชีรายรับรายจ่ายในระบบอิเล็กทรอนิกส์ด้วย  

 

     สำหรับบุคคลหรือนิติบุคคลที่จะก่อนิติสัมพันธ์กับหน่วยงานของรัฐที่ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ตามวรรคหนึ่ง ต้องดังกล่าวลงทะเบียนในระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมบัญชีกลางที่เว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ (www.gprocurement.go.th) แต่ถ้ายังมิได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมบัญชีกลาง ให้รายงานข้อมูลของคู่สัญญาที่ต้องแสดงบัญชีรายรับรายจ่ายต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. และกรมสรรพากร

 

คุมทุกสัญญาเกิน5แสน

 

จ่าย3หมื่นต้องบัญชีเช็ค

 

     ทั้งนี้ บัญชีแสดงรายรับรายจ่าย  หมายถึง บัญชีแสดงรายการรับจ่ายเงินของโครงการตามสัญญาที่บุคคลหรือนิติบุคคลซึ่งเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐต้องจัดทำและยื่นต่อกรมสรรพากร ด้านรายรับ หมายถึง จำนวนเงินที่คู่สัญญาได้รับจากหน่วยงานของรัฐ อันเนื่องจากการได้ปฏิบัติตามสัญญาหรือเกี่ยวเนื่องกับสัญญา หรือรายรับอื่นๆ ที่กำหนดไว้ให้คู่สัญญาได้รับ ส่วนรายจ่าย หมายถึง จำนวนเงินที่คู่สัญญาได้จ่ายไปทั้งสิ้นเพื่อการปฏิบัติให้เป็นไปตามสัญญาหรือเกี่ยวเนื่องกับสัญญา

 

     ประกาศของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ครอบคลุมสัญญาทุกประเภทที่ทำขึ้นเพื่อดำเนินการตามโครงการในการจัดหาสินค้าและบริการไม่ว่าด้วยวิธีการจัดซื้อหรือการจัดจ้างหรือวิธีอื่นใดของหน่วยงานของรัฐ ในทุกสัญญาที่มูลค่าตั้งแต่ 500,000 บาท (ห้าแสนบาท) ขึ้นไป แต่จะไม่ใช้บังคับกับสัญญาที่ได้ทำก่อนประกาศนี้มีผลใช้บังคับ

 

     สำหรับวิธีการใช้จ่ายเงินของคู่สัญญา ต้องรับจ่ายเงินผ่านบัญชีเงินฝากกระแสรายวัน เว้นแต่เป็นการจ่ายเงินในแต่ละครั้งจำนวนไม่เกินสามหมื่นบาทถ้วน

 

     “พูดง่ายๆ คือ เอกชนคู่สัญญากับหน่วยงานรัฐ ต้องเปิดบัญชีกระแสรายวันขึ้นมาเฉพาะเพื่อรับงานจากหน่วยงานรัฐ และการจ่ายเงินในโครงการตามสัญญากับหน่วยงานรัฐทุกรายการ ถ้ามีวงเงินตั้งแต่ สามหมื่นบาทขึ้นไปต้องจ่ายเป็นเช็ค ซึ่งจะทำให้การติดตามเส้นทางเงินที่ไม่สุจริตเป็นไปอย่างสะดวกขึ้น”

 

     ในด้านวิธีการยื่นและระยะเวลาการยื่นบัญชีแสดงรายรับรายจ่ายต่อกรมสรรพากร โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

 

1. กรณีบุคคลธรรมดาเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ

 

     หากระยะเวลาการจ่ายเงินตามสัญญาทั้งหมดอยู่ภายในปีเดียวกันให้ยื่นพร้อมกับการยื่นชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่หากระยะเวลาการจ่ายเงินตามสัญญาทั้งหมดมิได้อยู่ภายในปีเดียวกัน ให้ยื่นพร้อมกับการยื่นชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของทุกปี และให้ยื่นบัญชีแสดงรายการรับจ่ายทั้งหมดของโครงการตามสัญญาอีกครั้งหนึ่งเมื่อเสร็จสิ้นโครงการตามสัญญา

 

2.กรณีนิติบุคคลเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ

 

     หากระยะเวลาการจ่ายเงินตามสัญญาทั้งหมดอยู่ภายในรอบปีบัญชีหรือเดียวกัน ให้ยื่นเมื่อสิ้นงวดระยะเวลาบัญชีพร้อมกับการยื่นบัญชีงบดุลประจำปี แต่หากระยะเวลาการจ่ายเงินตามสัญญาทั้งหมดมิได้อยู่ภายในรอบปีบัญชีเดียวกัน ให้ยื่นทุกสิ้นงวดระยะเวลาบัญชี และเมื่อเสร็จสิ้นโครงการแล้ว ยื่นจนกว่าจะสิ้นภาระผูกพันตามสัญญา

 

     การตรวจสอบบัญชีแสดงรายการรับจ่าย  ให้เป็นดุลพินิจของกรมสรรพากรที่จะนำบัญชีแสดงรายการรับจ่ายของโครงการไปใช้ประกอบการตรวจสอบบัญชีงบดุลประจำปีของนิติบุคคลหรือตรวจภาษีเงินได้ของบุคคลหรือนิติบุคคล และหากพบว่าอาจมีการทุจริตเกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินในโครงการใด ให้รายงานคณะกรรรมการ ป.ป.ช. ทราบ พร้อมส่งเอกสารหลักฐานและความเห็นเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป  

 

     บุคคลหรือนิติบุคคลที่เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐผู้ใด ไม่แสดงบัญชีรายการรับจ่ายของโครงการตามประกาศนี้  หรือแสดงไม่ถูกต้องครบถ้วนในสาระสำคัญให้ถือว่าเป็นผู้ขาดคุณสมบัติที่จะเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ

 

     ในทางปฏิบัติจะกำหนดมาตรการ ให้หน่วยงานของรัฐกำหนดเงื่อนไขและคุณสมบัติของบุคคลหรือนิติบุคคลที่จะเข้าเป็นคู่สัญญาและคู่สัญญาต้องปฏิบัติ โดยกำหนดไว้ในเอกสารสอบราคา /ประกวดราคาให้รับทราบ คือ บุคคลหรือนิติบุคคลที่จะเข้าเป็นคู่สัญญาต้องไม่อยู่ในฐานะเป็นผู้ไม่แสดงบัญชีรายรับรายจ่าย หรือแสดงบัญชีรายรับรายจ่ายไม่ถูกต้องครบถ้วนในสาระสำคัญ ขณะเดียวกันบุคคลหรือนิติบุคคลที่จะเข้าเป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐซึ่งได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Government Procurement : e-GP)  ต้องลงทะเบียนในระบบอิเล็กทรอนิกส์ของกรมบัญชีกลางที่เว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ

 

ป.ป.ช.เตรียมติวเข้มทุกวงการ

 

ผู้รับเหมา-สื่อ-เอเยนซี่โฆษณา

 

     มาตรการตามประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช. นั้น มิได้ป้องกันการทุจริตจากการจ่ายเงินของเอกชนเพื่อให้ได้สัญญางานของหน่วยงานของรัฐอย่างไม่โปร่งใสเป็นธรรมแค่ในวงการรับเหมาก่อสร้างเท่านั้น แต่ยังขยายอาณาเขตครอบคลุมถึงงานจัดซื้อจัดจ้างต่างๆ งานบริการ งานที่ปรึกษา งานโฆษณาประชาสัมพันธ์  ฯลฯ ดังนั้นเพื่อเตรียมความพร้อมแก่ผู้เกี่ยวข้องมิให้เกิดความโกลาหล สำนักงาน ป.ป.ช. จึงได้ดำเนินการจัดเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติตามประกาศคณะกรรมการ ป.ป.ช.ดังกล่าว แก่ผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน เช่นที่ผ่านมาได้จัดการสัมมนาให้ความรู้แก่สมาชิกสมาคมอุตสาหกรรมก่อสร้างไปแล้ว และจะขยายการสัมมนาให้ความรู้แก่ทุกภาคส่วนต่อไป โดยเฉพาะกลุ่มที่ปรึกษา สื่อมวลชน และเอเยนซีโฆษณา ซึ่งมีจำนวนสัญญา จำนวนผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก และวงเงินจัดซื้อจัดจ้างค่อนข้างสูง โดยจะมีการจัดสัมมนาตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้ไปจนถึงสิ้นปี

 

     ผู้สนใจเข้าร่วมสัมมนา ที่ต้องการมาสอบถามและซักไซ้รายละเอียด จากวิทยากรของสำนักงาน ป.ป.ช. สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ e-mail: DrJack_Dc@yahoo.com และดาวน์โหลดเอกสารได้ที่ www.nacc.go.th

 

     งานสัมมนานี้ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น แต่ขอความกรุณาแจ้งความประสงค์และจำนวนผู้ที่จะเข้าสัมมนามาก่อน ฝ่ายจัดการจะได้เตรียมที่ทางรองรับได้อย่างเหมาะสม

 

ขอเชิญทุกท่านนะครับ

 

----------------------------------------------------------------------
 

รายละเอียด ประกาศ ปปช. คลิกดาวโหลดด้านล่าง

 

 

ดาวน์โหลดแบบฟอร์ม